ครูผู้สอน นายณรงค์วิทย์ สิงคิบุตร ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ Mail: ID Line: mr. teesing Tel: 086-8645491 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1:: ใบความรู้ที่ 1 สะเต็มศึกษา หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ดาวน์โหลดโปรแกรม Scratch หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 แนวข้อสอบปลายภาค1/2559 แนวข้อสอบปลายภาคเรียนที่ 2/2559 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 QR Code เว็บไซต์ จำนวนเยี่ยมชม คู่มือการใช้งานโปรแกรม
สรุปขั้นตอนการเขียนโปรแกรมภาษา Java ก่อนจะลงมือ เขียนโปรแกรมภาษา Java โดยใช้เครื่องมืออย่าง Eclipse นั้น เราจะต้องรู้ถึงขั้นตอนหลักในการเขียนโปรแกรมเสียก่อน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1: สร้างโปรเจ็กต์ เมื่อติดตัง Eclipse เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเริ่มต้นด้วยการสร้างโปรเจ็กต์ (โปรเจ็กต์ในที่นี้ก็คือ ที่รวมไฟล์ของหลายๆ ไฟล์ที่จำเป็นต่อการทำงาน เพราะโดยปกติโปรแกรมหนึ่งๆ จะประกอบไปด้วยไฟล์มากกว่าหนึ่งไฟล์อยู่แล้ว) 1. เปิดโฟลเดอร์ที่เก็บโปรแกรม Eclipse และดับเบิลคลิกที่ไอคอน eclipse ขึ้นมาใช้งาน 2. จะปรากฏไดอะล็อกบอกซ์ Workspace Launcher ให้คลิกปุ่ม 3. เลือกที่อยู่ที่เราต้องการจะเก็บไฟล์ Java ไว้ ซึ่งสามารถเก็บไว้ในไดร์ฟไหนก็ได้ เช่น เก็บไว้ที่ C:\Users\Administrator\Documents\ เขียนโปรแกรม \Java\Basic เป็นต้น 4. คลิกปุ่ม OK 5. เมื่อปรากฏหน้าจอ Welcome ให้ดับเบิลคลิกที่ไอคอน Workbench 6. คลิกเลือกเมนู File > New > Project... 7. จะปรากฏหน้าต่าง New Project ขึ้นมา ให้คลิดเลือก Java Project 8. จากนั้นก็คลิกปุ่ม Next > 9. ที่ช่อง Project name: ตั้งชื่อ Project 10. คลิกปุ่ม Next> 11. คลิกปุ่ม Finish 12.
คลิกขวาที่ชื่อ Project ที่เราสร้างขึ้น แล้วเลือกคำสั่ง New > Class 13. จะปรากฏหน้าต่าง New Java Class ที่หัวข้อ Name: พิมพ์ชื่อ Class ในที่นี้จะตั้งชื่อว่า HalloWorld 14. คลิกเลือก 15. คลิกปุ่ม Finnish 16. จะปรากฏโค๊ดสั้นๆ ขึ้นมาที่หน้าจอหลัก ขั้นตอนที่ 2: เริ่มเขียนโปรแกรม เป็นธรรมเนียมของการสอ นเขียนโปรแกรม แรก ไม่ว่าจะภาษาใดๆ มักจะเริ่มด้วยรูปแบบคลาสสิคที่เรียกว่า Hello World ซึ่งเป็นการทำงานง่ายๆ ด้วยการแสดงข้อความต้อนรับผู้เขียนโปรแกรมด้วยคำว่า "Hello World" 1. ให้เราพิมพ์คำสั่งใน ภาษา Java เพิ่มเติมแทรกเข้าไป ดังนี้ โปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเป็นโปรแกรมที่ ส่งข้อความ Hello World ออกสู่หน้าจอ โดยใช้คำสั่ง เป็นคำสั่งแสดงผลออกสู่หน้าจอ สาระน่ารู้ - Public เป็นการกำหนดการเข้าถึงคลาส Static ใช้นิยามตัวแปรและ Method ที่ต้องการให้มีค่าคงที่ สามารถนำไปใช้ได้กับทุกๆ ส่วน ของ Class void ใช้นิยาม Method โดยเป็นการกำหนดให้ไม่มีการส่งค่าใดๆ กลับมาให้กับ Method นี้ main เป็นการบอกโปรแกรมให้รู้ว่า จะเรียกใช้การทำงานในส่วนนี้เป็นส่วนหลัก 2. คลิกที่ไอคอน Save ขั้นตอนที่ 3 และ 4: การคอมไพล์ และรันโปรแกรม การคอมไพล์และการรันผลการทำงานของ class ด้วยโปรแกรม Eclipse นั้นมี 2 ลักษณะตาม การเขียนโปรแกรม คือ การคอมไพล์และรันโปรแกรมในกรณีปกติ - การคอมไพล์ และรันโปรแกรมในกรณีที่มีการรับค่า อาร์กิวเมนต์ จากคีย์บอร์ด กรณีนี้ไม่มีการรับค่าอาร์กิวเมนต์จากคีย์บอร์ดสามารถทำได้ดังนี้ 1.
5+1 i = 3 while i <= max: if n% i == 0: return 0 i+=2 return 1 #main for n in range(2, 100): if isprime(n): print n วิธีที่ 4 การใช้ฟังก์ชัน ร่วมกับ Regular expression แบบนี้ต้องใช้ความรู้เรื่อง Regular expression ด้วย หากต้องการทราบรายละเอียดให้ใช้ อากู๋ (google) พิมพ์คำว่า python regular expression การใช้ฟังก์ชัน Regular expression ทำให้เขียนคำสั่งสั้นลงมาก Source code import re def is_prime(num): return not (r"^1? $|^(11+? )\1+$", "1" * num) def pri(num): return is_prime(num) for n in range(2, 100): if pri(n): print n คำสั่งทั้งหมดได้ผ่านการทดสอบผลลัพธ์มาแล้วว่าถูกต้องทั้งหมด หากผู้สนใจจะนำไปใช้กับภาษาอื่น ก็ขอให้นำหลักการไปประยุกต์กับไวยกรณ์ภาษานั้น ๆ ได้ อ้างอิง
คลิกเลือกเมนู Run > Run 2. จะปรากฏผลลัพธ์ขึ้นที่หน้าจอ Console การคอมไพล์ และรันโปรแกรมในกรณีที่มีการรับค่าอาร์กิวเมนต์จากคีย์บอร์ด บางครั้งเราอาจต้องการให้ผู้ใช้งานป้อนข้อมูลบางอย่างผ่านทางคีย์บอร์ดส่งไปให้โปรแกรมก่อน แล้วจึงนำค่าที่ป้อนนั้นไปเป็นข้อมูลเริ่มต้นสำหรับการทำงานของโปรแกรม ซึ่งมีวิธีการดังนี้ 1. ไปที่หน้าการสร้างโปรเจ็กต์ใหม่ แล้วกำหนดรายระเอียดของโปรเจ็กต์ ดังนี้ 2. สร้างคลาสขึ้นมาใหม่ 3. เขียนโปรแกรมง่ายๆ ให้แสดงอาร์กิวเมนต์ที่เราป้อนเข้ามาทีละบรรทัด (โดยเอาแค่ 3 อาร์กิวเมนต์แรกเท่านั้น) 4. คลิกเลือกเมนู Run > Run Configurations... 5. จะปรากฏหน้าต่าง Run ขึ้นมา ให้คลิดแท็บ Arguments 6. ที่ช่อง Program arguments ให้พิมพ์อาร์กิวเมนต์ที่เราต้องการใส่ลงไป (จะพิมพ์กี่ตัวก็ได้ อาร์กิวเมนต์แต่ละตัวจะถูกขั้นด้วยช่องว่าง (Space) นั่งเอง) 7. คลิกปุ่ม Apply 8. คลิกปุ่ม Run 11. จะปรากฏผลลัพธ์จากการคอมไพล์และรัน โดยจะแสดงอาร์กิวเมนต์ที่เราป้อนมาให้เห็นที่หน้าจอ Console ดังรูป ขั้นตอนที่ 5: บันทึกโปรเจ็กต์ จะเห็นว่าไฟล์. Java ซึ่งเก็บโค๊ดที่เราเขียนนั้น จะอยู่ในซับโฟลเดอร์ scr ส่วน ไฟล์นามสกุล ซึ่งได้จากการคอมไพล์นั้นจะเก็บอยู่ในซับโฟลเดอร์ bin (และทั้งหมดจะเก็บอยู่ในโปรเจ็กต์ที่เราได้สร้างขึ้น)
50%) ของมูลค่าเงินรางวัล สามารถรับเป็นเงินสดได้ทันที หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่แผงลอตเตอรี่นั้นๆ 5. ร้านทอง คิดอัตราค่าธรรมเนียม 1-3% (รวมค่าอากรแสตมป์ 0. 5%) คล้ายกับการขึ้นเงินที่แผงลอตเตอรี่ สามารถรับเป็นเงินสดได้ทันที หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านทองนั้นๆ หากยังอ่านดวงไม่จุใจ ติดตามอ่านดวงแบบอื่นๆ ได้ที่นี่ ดวงรายวัน ดวงรายสัปดาห์ ดวงรายปักษ์ ดวงรายเดือน เลขมงคล ฤกษ์มงคล